วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

โด คุโร โครม


โด คุโร โครม

ดูบทความที่ โดคุโร โครม
เดิมโคลมชื่อนางิ วันหนึ่งตัวเองถูกรถชนแม่นางิพามาโรงพยาบาลหมอบอกแม่นางิว่าเขาเสียตาข้าง หนึ่งเสียอวัยวะที่ท้องบางส่วนพ่อแม่นางิปลอยให้นางิตายก่อนนางิตายนางิใด้ ยินเสียงมุคุโร่มุคุโรบอกว่าเขาจะช่วยแต่ต้องให้ใช้ร่างนางิยอมหลังจากนั้น นางิจึงเปลี่ยนชื่อเป็นโดคุโร โครม

โร คุโด มุคุโร


โร คุโด มุคุโร

ดูบทความที่ โรคุโด มุคุโร
ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยปริศนา เกิดวันที่ 9 มิ.ย. ต้องการครอบครองร่างของสึนะ ในเนื้อเรื่องภาค "ศึกโกคุโย" มุคโร่ได้มาที่เมืองนามิโมริ พร้อมด้วยพรรคพวกอีก6คนที่แหกคุกมาด้วยกัน เข้าค้นหาตัว "บอสรุ่นที่10ของวองโกเล่" มุคุโร่ได้จับตัวฟูตะไป และใช้ความสามารถของฟูตะเพื่อหาจุดอ่อนของพรรคพวกของสึนะแต่ละคน และ มุคุโร่ก็ได้ส่งพรรคพวกของเขาจัดการพวกสึนะทีละคน เพื่อล่อให้สึนะมาหาตนที่โกคุโยแลน หลังจากนั้นมุคุโร่ได้ต่อสู้กับสึนะโหมดไฮเปอร์ และพ่ายแพ้ในที่สุด
อีก 10 ปีข้างหน้าก็ได้ใช้กระสุนสิงสู่ไปสิงนกฮูกของโกร คิชิเนีย และเลโอนาโด ลิปปี เพื่อเป็นสปายในมิลฟิโอเรแฟมิลี

ฮิ บาริ เคียวยะ


ฮิ บาริ เคียวยะ

ภาพตัวละคร [4]

ฮิบาริ เคียวยะ (雲雀 恭弥 | Hibari Kyōya) กรรมการคุมกฏระเบียบประจำโรงเรียนนามิโมริ รักโรงเรียนมากถึงขนาดใช้เพลงริงโทนมือถือเป็นเพลงโรงเรียน และเขาก็ยังสนใจในตัวรีบอร์นอีกด้วย ถึงแม้จะเป็นวันหยุดแต่เขาก็ยังใส่ชุดนักเรียนไปไหนมาไหน ฮิบาริยอมไม่ได้ที่จะมีคนมาดูถูกโรงเรียน หรือเด็กนักเรียนนามิโมริถูกทำร้าย เขาจึงเป็นคนที่ใคร ๆ ก็หวาดกลัว แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับความเคารพยำเกรงเช่นเดียวกัน ฮิบาริเกลียดการสุมหัว มีฝีมือที่ร้ายกาจ แถมยังเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในวองโกเล่อีกด้วย โดยศึกโกคุโยพ่ายแพ้ต่อมุคุโร และเป็นเหตุให้ฮิบาริแค้นเคืองมุคุโรตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อเจอมุคุโรที่ไหนย่อมเกิดศึกขึ้นทุกครา

ประวัติ

เกิดวันที่: 5 พ.ค. (เนื่องจากจำได้ว่าตัวเองเกิดในวันเด็กผู้ชาย)

สูง: 169 cm.

หนัก: 58 Kg.

สัญชาติ:ญี่ปุ่น

คำพูดติดปาก: ฉันจะขย้ำแกให้ตาย (kimikarakamikorosu) กับ wow

อาวุธ:กระบองสั้น (ทอนฟา) ซึ่งติดอุปกรณ์เสริมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกตุ้ม ตะขอเกี่ยว ฯลฯ กล่อง แหวนแห่งเมฆา

ท่าไม้ตาย:ชาโดว์บอล ขยายตัว ฟาด โลกหนามกลับด้าน

อาหาร:อาหารญี่ปุ่นและแฮมเบิร์ก

รหัสประจำตัว:18

ครูสอนพิเศษ:ดีโน่

สัตว์เลี้ยง:ฮิเบิร์ด

แรมโบ้


แรมโบ้

ภาพตัวละคร [3]

แรมโบ้ (ランボ | Lambo) เด็กนักฆ่าที่คิดจะฆ่ารีบอร์นแต่ทำไม่สำเร็จ ภายหลังตกเป็นภาระให้สึนะต้องดูแล มีบาซูก้าทศวรรษที่บอสของโบวีโน่ แฟมืลี่[แฟมิลี่ที่เล็กกว่าวองโกเล่ แฟมิลี่ ]มอบมาให้ ซึ่งเป็นของเล่นประจำตัว เป็นผู้พิทักษ์แหวนแห่งอัสนีของวองโกเล่และเป็นเด็กที่ติงต๊อง ตั้งแต่เขาเกิดมาก็โดนฟ้าผ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนร่างกายปรับตัวอย่างที่หาได้ ยากหรือเรียกว่า อิเล็กทริคโก้ ควอยโอ้ (ผิวอัสนีบาต) ซึ่งเป็นเหตุทำให้แรมโบ้กลายเป็นผู้พิทักษ์แหวนแห่งอัสนี แรมโบ้ มีท่าไม้ตายคือ อิเล็กทริคโก้ คอนนาต้า และอิเล็กทริคโก้ รีเวิส สายฟ้าสำหรับเขา (ในอนาคต) เหมือนเป็นลูกแมว รหัสประจำตัวของแรมโบ้คือ L

ยา มาโมโตะ ทาเคชิ


ยา มาโมโตะ ทาเคชิ

ดูบทความที่ ยามาโมโตะ ทาเคชิ

ภาพตัวละคร [2]

ยามาโมโตะ ทาเคชิ (山本 武 | Yamamoto Takeshi)

กิจวัตรประจำวัน : ไปสนามแข่งขัน (นามิโมริ โบว์)

ความฝัน : นักเบสบอลมืออาชีพ

อาหารที่ชอบ : ซูชิ

เครื่องดื่มที่ชอบ : นม

เครื่องดนตรีที่ชอบ : กลองวาไทโกะ

อายุ : 14 ปี

วันเกิด : 24 เมษายน

ราศี : ราศีพฤษภ

กรุ๊ปเลือด : โอ

ส่วนสูง : 177 เซน

น้ำหนัก : 63 กิโล

ประเทศที่เกิด : ญี่ปุ่น

อาวุธ : ชิงุเระคิโทคิ ดาบไม้ ที่เมื่อใช้ท่าของชิงุระโซเอนจะกลายเป็นดาบมีคม ,กล่องนางแอ่นพิรุณ (โคจิโร่) ,กล่องสุนัขคาบดาบ (จิโร่)

* เมื่อดาบไม้รวมร่างกับชิโร่ จะได้เป็นดาบนางแอ่น

ท่าไม้ตาย : กระบวนท่าเพลงดาบชิงุระโซเอ็น (ภายหลังเพิ่มเป็น4ดาบ เรียก4ดาบไร้กฏเกณท์ แต่ยังคงเปนชิงุระโซเอ็น)

กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 1 กงล้อพิรุณ พุ่งเอาดาบแทงศัตรูตรงๆโดยใช้น้ำโอบล้อมร่างกาย

กระบวนท่ารับ ลำดับที่ 2 พิรุณโปรยสาด ใช้กำแพงน้ำกำบังกายแล้วย่อตัวลงป้องกัน

กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 3 พิรุณสาดซัด ใช้เท้าเตะดาบพุ่งไปหาศัตรู

กระบวนท่ารับ ลำดับที่ 4 พิรุณหนาวกระหน่ำพัด หลบหลีกคมดาบของศัตรูโดยการปรับลมหายใจให้ตรงกัน

กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 5 พิรุณเดือนห้า สลับดาบไปอีกมือทำให้จังหวะและวิถีดาบเปลี่ยนไปตามใจชอบได้

กระบวนท่ารับ ลำดับที่ 6 ยังไม่ปรากฏ แต่เป็นกระบวนท่ารับ

กระบวนท่ารับ ลำดับที่ 7 พิรุณกระโชกพัด กันการโจมตีศัตรูโดยฟันหมุนเป็นวงกลม

กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 8 พิรุณกระหน่ำแทง พุ่งไปหาศัตรูฟันดาบในแนวนอนจากขวาไปซ้ายอย่างรวดเร็ว

กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 9 ฝนสะท้อนเงา ตวัดดาบสร้างคลื่นให้เกิดเงาลวงศัตรูแล้วพุ่งไปฟันด้านหลัง

กระบวนท่าพิเศษรุก ลำดับที่ 10 นกนางแอ่นประจัญบาญ (Scontro di rondine) ใช้ชิโร่บินสร้างไฟพิรุณนำทางแล้ววิ่งตามไปฟันด้วยดาบที่มีไฟธาตุพิรุณอยู่

กระบวนท่าพิเศษรุก ลำดับที่ 11 จงอยปากนางแอ่น (Beccata di rondine) แทงดาบด้วยควาเร็วสูงจนเหมือนดาบมีหลายเล่ม

* ในอีก10ปี ใช้สคอนโทรดิออนดิเน พร้อมกับพิรุณกระหน่ำแทง (มีการใช้ท่าของสควอโลด้วย เช่น Attack Gold D Scuolo)

โก คุเดระ ฮายาโตะ


โก คุเดระ ฮายาโตะ

ดูบทความที่ โกคุเดระ ฮายาโตะ

[1]

โกคุเดระ ฮายาโตะ (獄寺 隼人 | Gokudera Hayato)

แม่ของโกคุเดระเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น พ่อเป็นคนอิตาลี

ความฝัน : เป็นมือขวาของรุ่นที่ 10

นิตยสารที่ชอบอ่าน : The Wonders and Mysteries of the World

บุคคลที่เกลียด : คนที่แก่กว่า, เบียงกี้, แรมโบ้

งานอดิเรก : เล่นเปียโน อ่านหนังสือ

อายุ : 14 ปี

วันเกิด : 9 กันยายน

ราศี : ราศีกันย์

กรุ๊ปเลือด : บี

ส่วนสูง : 168 เซนติเมตร

น้ำหนัก : 54 กิโลกรัม

ประเทศที่เกิด : อิตาลี

อาวุธ - ระเบิด , กล่องสำหรับใช้ SISTEMA C.A.I. (Cambio Arma Istantaneo (เปลี่ยนอาวุธชั่วพริบตา)) 16กล่อง

ท่าไม้ตาย

* - ระเบิด2เท่า,3เท่า
* - SISTEMA C.A.I. คือระบบการทำงานของ5ธาตุกับ16กล่อง ซึ่งทั้ง16กล่องนั้น จะมีเพียง4ที่เปิดได้ด้วยแหวนที่ ติดไฟธาตุวายุแท้ๆ หนึ่งใน4กล่องนั้นคืออุริ เป็นสื่อที่ทำให้เปิดกล่องซึ่งเก็บแหวนที่ สามารถแปลงไฟธาตุวายุ เป็นธาตุพิรุณได้และ จากแหวนธาตุพิรุณนั้น ทำให้เปิดได้อีก3กล่อง ซึ่งแต่ละกล่องก็เก็บแหวน ที่แปลงคลื่นวายุเป็นธาตุอื่นๆได้อีก คือ อรุณ อัสนี และ เมฆา และยังมีอาวุธที่สนับสนุน คือ กระสุนหัวจรวดที่ติดมาในกล่อง เดียวกับแหวนแห่งอรุณ อีก3ยังเป็นแป็นปริศนา แต่แหวนอีก3วงที่ได้มานั้น ใช้ผสมกับธาตุ วายุและพิรุณจะทำไห้เปิดกล่องได้อีก จนครบ12กล่อง ซึ่งจากการผสมธาตุนั้น อาวุธที่ได้มาจากกล่อง อาวุธ2ธาตุ คือมีไฟธาตุอื่นเคลือบธาตุวายุ อีกที เพิ่มประสิทธิภาพในการทำลาย ให้มากขึ้นด้วยคุณสมบัติ ที่หลากหลาย และนี่ก็คือ SISTEMA C.A.I

ขั้นตอน การใช้ และความสารถที่เพิ่มเข้ามาหลังจากการประยุกต์ใช้

1.คือ การที่จะสามารถเปิดกล่อง Sistema C.A.I. นั้นจำเป็นจะต้องมีไฟทั้งหมด 5ธาตุ คือ วายุ อรุน อัศนี เมฆา พิรุณ ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย

2.Sistema C.A.I. นั้น ถ้าไม่เปิดทั้งหมด อาวุธจะใช้การไม่ได้ (ค่อยๆเปิดใช้ไล่ไปก็ได้ แต่ถ้าไม่เปิดต่อไปเรื่อยๆก็จะไม่สามารถใช้ได้ครับ)

3.Sistema C.A.I. เป็นระบบ ที่สามารถ สัปเปลี่ยนอาวุธ โดยอาศัยการเปิดกล่องธาตุต่างๆ

4.เวลา ยิง สามารถใช้ไฟธาตุ ต่างๆ มาผสมกับธาตุวายุ เพื่อให้ได้เปรียบในสถานการณ์ต่างๆ เช่นเพื่อที่จะทำลายเกราะอัศนี จำเป็นต้องใช้ การสะกดของพิรุณ+วายุ

5.มีโล่ป้องกันอัตโนมัติ ไว้ใช้ ป้องกัน โดย ใช้วายุผสมธาตุต่างๆเช่นกัน เพื่อให้ได้เปรียบอีกฝ่าย

กระสุนธาตุ วายุ เป็น เฟรมมิ่งแอโร่

กระสุนธาตุ วายุ+พิรุณ เป็น Raining shoot (มีไฟธาตุพิรุณเคลือบ) มีความสามารถในการลดการป้องกันของศัตรูและโจมตีในเวลาเดียวกัน

กระสุณธาตุ วายุ+อรุณ เป็น การยิงกระสุนปืนกล ที่สามารถเร่งความเร็วได้อีกในระหว่างที่ยิงออกไปแล้ว (Sunshine Shot )

กระสุนธาตุ วายุ+เมฆา เป็นการยิงเลเซอร์หลายๆเส้น แพร่ขยาย ออกเป็นรัศมีกว้าง ด้วยคุณสมบัติเพิ่มพูณ ของเมฆา (Cloud Laser)

กระสุน ธาตุ วายุ+อัศนี ไฟธาตุอัศนีที่มีความแข็งที่สุด+กับวายุที่พลังในการสลาย ทำให้ได้เฟรมแอโร่ที่รุนแรงที่สุด (Flame thunder)

แล้วยังมีคล้ายๆบอร์ด อากาศ เอาไว้สำหรับ บิน (มันคือ โล่ของโกคุที่ใช้ ป้องกันมันสามารถเปลี่ยนรูปแบบไปใช้ ใช้ในการเคลื่อนที่ได้)

แม่ของโกคุเทระเป็นนักเปียโน ส่วนตัวโกคุเดระเองก็เล่นเปียโนมาตั้งแต่เด็ก
หมายเหตุ นามสกุลของโกคุเทระ ตามต้นฉบับที่ถูกต้องต้องอ่านว่า"โกคุเดระ" แต่เมื่อได้รับการนำมาตีพิมพ์ในภาษาไทยได้มีการคลาดเคลื่อนไปจากต้นฉบับ อนึ่ง ในฉบับอะนิเมะของภาษาไทยก็ยังคงเรียกว่า"โกคุเดระ"ตามต้นฉบับ

ซา วาดะ สึนะโยชิ


ซา วาดะ สึนะโยชิ

ดูบทความที่ ซาวาดะ สึนะโยชิ
นักเรียน ม.ต้น โรงเรียนนามิโมริ ที่ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องไปซะทุกอย่าง จนได้ฉายาว่า สึนะจอมห่วย เป็นทายาทโดยตรงของวองโกเล่รุ่นที่ 1 จึงได้รับเลือกเป็นวองโกเล่รุ่นที่10ทำให้ต้องได้รับการฝึกฝนเป็นวองโกเล่ รุ่นต่อไป โดยมีรีบอร์นเป็นครูสอนพิเศษและ10ปีข้างหน้าได้ตายเพราะถูกมิฟิโอเล่ยิงตาย มีเปลวไฟธาตุนภา โดย ธาตุนภา มีคุณสมบัติพิเศษคือ การผสมกลมกลืน(แต่แท้จริงยังมีชีวิตอยู่ จากคำบอกเล่าของอิริเอะ โชอิจิ ในตอนที่ 252-253)และมีถุงมือนภาสัญลักษณ์บอสของวองโกเล่

อาวุธ ถุงมือ X-Gloves และ X-Gloves Ver.v.r. (Version Vongola Ring) กล่อง สิงโตนภา ชื่อ นัตสึ ท่าไม้ตาย เดือดทะลุจุดศูนย์ เดือดทะลุจุดศุนย์ฉบับดัดแปลง X-Burner X-Burner-Air X-stream X-buster และ X-burner Hyper Explosion

ภาค พิเศษ อัลโกบาเลโน่


ภาค พิเศษ อัลโกบาเลโน่

หลังจากจบศึกที่ฐานทัพเมโลเน่ สึนะได้รับกล่อง Vongola มาแต่ไม่สามารถใช้มันได้ อิริเอะ โชอิจิบอกกับเขาว่า การที่จะเปิดกล่องได้ จำเป็นจะต้องกลับไปยังอดีตเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นเวลา 1 อาทิตย์เพื่อรับการทดสอบจากอัลโกบาเรโน่ทั้ง 7 โดยการกลับไปของพวกเขาเป็นการชั่วคราวนั้น ในโลกในอดีต พวกเขาหายไปเพียงแค่สามวันเท่านั้น และอิริเอะก็ได้บอกให้พวกเขาสร้างเรื่องว่า ไปปิคนิคกันและหลงทาง เมื่อทุกคนกลับไปอดีต ก็เป็นเวลาเดียวกับที่อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดมุ่งหน้าไปญี่ปุ่น รีบอร์นได้เล่ารายละเอียดคร่าวๆของอัลโกบาเรโน่แต่ละคนให้พวกสึนะฟัง อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดประกอบด้วย

1. โคโรเนโร่ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุพิรุณ อดีตหัวหน้าหน่วยคอมมุสบินของอิตาลี มีอาวุธคือปืนไรเฟิล
2. สกัล (หรือสคัล) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุเมฆา สตั๊นท์แมนผู้ได้รับฉายาว่า สกัลอมตะ
3. เวลเด้ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอัสนี นักวิทยาศาตร์อัจฉริยะ ผู้สร้างกล่อง (ร่วมกับ เคนิตฮ์ และ อิโนเซนตี้) ในอีกสิบปี
4. ไวเปอร์ (มาม่อน) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุสายหมอก เป็นผู้หญิงที่ใช้มายาที่เพียงคนเดียวในกลุ่มอัลโกบาเลโน่ สามารถสร้างภาพมายาให้กลายเป็นจริง และทำให้สิ่งที่มีจริงกลายเป็นภาพมายาได้
5. ฟง ผู้ครอบครองจุกนมธาตุวายุ นักสู้อัจฉริยะอันดับหนึ่งของการแข่งขันกังฟูทัวร์นาเม้นท์ของจีน หน้าตาและทรงผมเหมือน ฮิบาริ เคียวยะ แต่มีเปียยาวด้านหลัง เป็นอาจารย์ของอี้ผิง
6. รีบอร์น ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอรุณ เป็นนักฆ่าที่เก่งที่สุดในหมู่มาเฟีย
7. อาเรีย (แม่ของยูนิ) (มาแทนลูเช่เพราะหายสาบสูญ) (ลูเช่เป็นยายของยูนิ) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุนภา เป็นหัวหน้าของอัลโกบาเลโน่ แม่ของรองหัวหน้ามิลฟีโอเล่แฟมิลี่ ยูนิ ในภาคพิเศษอัลโกบาเลโน่จะเป็นอาเรียซะส่วนใหญ่ จะมีพูดถึงลูเช่ช่วงย้อนความก่อนเป็นอัลโกบาเลโน่

การทดสอบครั้งแรก : การทดสอบของโคโรเนโร่ ฝึกทดสอบด้านการต่อสู้ โดยจะต้องหยิบเข็มกลัดที่มีเลข01จากผ้าโพกหัวของโคโรเนโร่ให้ได้

การทดสอบครั้งที่สอง : การทดสอบของสกัล ทดสอบในด้านสเน่ห์ จะต้องพยายามหยุดการต่อสู้กันระหว่างโรคุโด มุคุโร่ กับ ฮิบาริ เคียวยะให้ได้

การทดสอบครั้งที่สาม: การทดสอบของมาม่อน (ไวเปอร์) ฝึกเกี่ยวกับ ความสามารถในการดัดแปลงและด้านปัญญา โดยจะให้ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ในนามิโมริเมื่อเจอคำตอบจะต้องทำภารกิจที่ มาม่อนบอก ซึ่งภารกิจคือ เอาตัวรอดจากมาม่อนโดยใช้อาวุธกล่องทั้ง 3

การทดสอบครั้งที่สี่ : การทดสอบของฟง ทดสอบด้านความเป็นผู้นำ โดยจะต้องไล่จับฟงในโรงเรียนภายในเวลา30นาทีให้ได้ ผู้เข้าร่วมการทดสอบมีทั้งหมด3คน ได้แก่ ซาวาดะ สึนะโยชิ,แรมโบ้,มิอุระ ฮารุและอี้ผิงที่ปรากฏตัวภายหลังได้เข้ามาช่วยไว้ ในช่วงแรกๆของการทดสอบ เหล่าทุกคนได้พยายามไล่จับฟงอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับจับตัวฟงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าทั้งหมดจะใช้อาวุธไล่โจมตีฟงเพื่อให้ฟงต้องหยุดก็ตาม จนผู้ทดสอบทั้งหมดเริ่มท้อกับการทดสอบ สึนะจึงปลอบใจ และเพิ่มกำลังใจผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่นๆ และเริ่มใช้กลยุทธ์

การทดสอบครั้งที่ห้า : การทดสอบของอาเรีย ทดสอบด้านความอดทนในการยอมรับความเห็นผู้อื่น โดยสึนะจะต้องคอยทำตามคำขอร้องของอาเรียไปเรื่อยๆโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่า เธอเป็นอัลโกบาเรโน่หรือเปล่า

การทดสอบครั้งที่หก : การทดสอบของรีบอร์น ทดสอบด้านความสามัคคีของบอส โดยจะต้องต่อสู้กับรีบอร์นแบบ7ต่อ1 (ผู้พิทักษ์ทั้ง6และหัวหน้า VS รีบอร์น) โดยที่ทั้งหมดล้วนแต่ใจอ่อนต่อรีบอร์น จึงไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นเท่าไรนัก ในขณะที่รีบอร์นจริงจังกับการต่อสู้มาก จนทำให้ผู้พิทักษ์ทั้งห้าคน (โกคุเดระ ฮายาโตะ,ยามาโมโตะ ทาเคชิ,โคลม โดคุโร่,ซาซางะวะ เรียวเฮย์ และฮิบาริ เคียวยะ) ได้หมดสติลงอย่างรวดเร็ว ส่วนแรมโบ้ ก็ได้แต่นอนอย่างไม่รู้เรื่องอะไรลย จนทำให้เหลือสึนะเพียงคนเดียว จึงกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างสึนะกับรีบอร์น ในช่วงท้ายๆของการทดสอบ รีบอร์นออมมือให้สึนะเล็กน้อย จนสึนะได้โอกาสยิงX-Burner Air แต่ว่า เพราะสึนะไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นมากไปกว่านี้ สึนะจึงหยุดยิงX-Burner Airจนทำให้สูญเสียโอกาสสุดท้ายไป และถูกรีบอร์นโจมตีด้วยกระสุนดับเครื่องชนจนไม่ผ่านการทดสอบในที่สุด

การทดสอบครั้งที่เจ็ด : การทดสอบของเวลเด้ ทดสอบด้านสัญชาตญาณ โดยเวลเด้ได้หลอกให้สู้กับหุ่นยนต์ที่ก๊อปปี้ตัวเองขึ้นมา ในตอนแรกพวกอัลโกบาเลโน่ ทั้งหมดได้โดนจับ (ยกเว้นอาเรีย) โดยหลังจากที่สึนะช่วยพวกนั้นมาได้ก็ได้ช่วยกันกำจัดเวลเด้แต่ตัวแรกเป็น หุ่นยนต์จึงเสียแรงฟรีเปล่าๆ แต่สึนะได้รู้สึกว่ามีฐานทับลับของเวลเด้อยู่ใกล้ๆ พวกสึนะจึงผ่านการทดสอบ

การทดสอบรอบแปด : การทดสอบของรีบอร์น (รอบสอง) ทดสอบด้ายความเชื่อใจและความพยายาม โดยตอนที่พวกสึนะฝึกกับเวลเด้ผ่านและได้พลังอัศนีของเวลเด้มา รีบอร์นก็ให้ผ่านการทดสอบ เพราะสึนะต้องการทดสอบกับรีบอร์นอีกรอบรีบอร์นเห็นว่ามีความพยายามจึงให้ ผ่านไปเลย

ภาค Choice


ภาค Choice

หลังจากนั้น เบียคุรันได้ออกมาบอกกับสึนะว่า หกบุปผาที่ครอบครองแหวนมาเล่และแหวนมาเล่ทั้งหกวงนั้นเป็นของปลอม และได้ประกาศศึกอย่างเป็นทางการกับสึนะโยชิ และให้เวลาพวกสึนะไปฝึกฝนตนเอง โดยได้ให้คำใบ้เป็นเกมที่เคยเล่นกับโชอิจิในสมัยก่อน จากนั้น โชอิจิและสปาน่าได้เข้ามาอยู่ในวองโกเล่ตามคำเชิญของรีบอร์นและสึนะ ทั้งสองช่วยกัยจัดการฐานทัพมาเล่ที่ญี่ปุ่น ทางด้านพวกสึนะที่ได้หยุดพัก ก็ไปเยี่ยมโรงเรียนของตนเอง ที่โรงเรียนนามิโมริซึ่งสภาพเหมือนเดิมทุกประการ ฮิบาริได้พบกับดีโน่บนดาดฟ้าของอาคารเรียน ส่วนจางนีนิก็ได้ผลิตอาวุธชิ้นใหม่ให้สึนะคือมอเตอร์ไซค์พลังงานดับเครื่อง ชน เพื่อใช้ในการแข่งChioce Warกับเบียคุรัน โดยวองโกเล่ได้ลงแบบสุ่มตัวแทนได้แก่ สึนะ โกคุเดระ ยามาโมโตะ อิริเอะเละสปาน่า ทางฝ่าย 6 บุปผาอาลัยได้ส่งตัวแทนคือ เดซี่ (อรุณ) คิกเคียว (เมฆา) โทริคาบูโตะ (สายหมอก) และอัศวินมายา ในระหว่างการต่อสู้ อัศวินมายาถูกสังหารโดยคิกเคียว (ตาย) ฝ่ายวองโกเล่เป็นฝ่ายแพ้ อิริเอะได้เปิดเผยความสามารถของเบียกคุรัน ทันใดนั้น ยูนิก็เดินมาขอให้เบียกคุรันถือผลการแข่งขันว่าเป็นโมฆะและจะลาออกจากมิลฟี โอเล่ แต่เบียคุรันไม่ยอม ขู่จะทำร้ายยูนิ แต่ว่ามุคุโร่ก็มาปกป้องยูนิและบอกว่าตัวเองนั้นยังไม่ตาย และยังติดอยู่ในคุกวินดิเช่ และรีบบอกให้สึนะพายูนิหนีไปที่เมืองนามิโมริ เมื่อมาถึงนามิโมริแล้ว 6 บุปผาอาลัย ได้ตามมาที่เมืองนามิโมริ ฮิบาริ ดีโน่ในอนาคต โรมาริโอ และคุซาคาเบะได้ไปรอศัตรูที่โรงเรียนนามิโมริ และเดซี่แปลงเป็นจิ้งจกอรุณ งอกแขนขาได้ ดีโน่แพ้ แต่ถูกจัดการโดยฮิบาริโดยอาวุธกล่อง วองโกเล่ กุณแจมืออารันดันดี คนอื่นรออยู่ที่ฐานทัพลับ ทันใดนั้นแผ่นดินก็สั่นสะเทือนพร้อมกับการปรากฏตัวของซาคุโร่วายุ

ซาคุโร่เข้ามาชิงตัวยูนิในฐานทัพวองโกเล่และเยาะเย้ยดูถูกพวกของสึ นะ จนยามาโมโตะ และโกคุเดระทนไม่ไหวจึงจะเข้าไปสู้ แต่สควอโล่มาขวางไว้และบอกว่าจะเป็นคนไปสู้เอง และบอกให้พวกสึนะพายูนิหนีไปสึนะและพวกจึงคิดว่าจะหนีไปซ่อนที่ไหน และแล้วฮารุก็บอกว่าให้ไปที่ร้านอาหาร เพราะฮารุรู้จักกับคนในร้าน ในขณะที่กำลังจะไปเสียงร้องของสควอโล่ก็ดังขึ้น พวกสึนะจึงหันกลับไปมอง ปรากฏว่าสควอโล่บาดเจ็บสาหัส แขนขาดไปหนึ่งข้าง และฐานวองโกเล่ก็พังยับเยินด้วยฝีมือของ ซาคุโร่ สควอโล่บอกให้พวกสึนะไปโดยเร็วที่สุด พวกสึนะจึงมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหาร เมื่อไปถึงกลับพบว่าร้านปิด จึงตะโกนเรียกทันใดนั้นก็มีชายลึกลับใส่แว่นกำลังโซ้ยราเม็งชื่อคาวาฮิระ ออกมาบอกว่าเจ้าของร้านเสียไปแล้ว และ ก็บอกกับพวกสึนะว่าให้เข้ามาหลบก่อน คาวาฮิระช่วยไล่ซาคุโร่ไปยังภูเขาไฟฟูจิ และหลังจากนั้นคาวาฮิระก็ได้ให้พวกสึนะฝากร้านไว้ แต่กลับโดนโทริคาบูโตะสลับตัวกับแรมโบ้เพื่อชิงตัวยูนิ แต่แกมม่ามาช่วยทัน โทริคาบุโตะแปลงเป็น ไนท์เบน ผีเสื้อกลางคืนสายหมอก สึนะกำลังลำบาก โคลมเปิดกล่องวองโกเล่เอาเลนส์ปีศาจ ดี.สเปเด้มาใช้ สุดท้ายโทริคาบูโตะก็พ่ายแพ้ต่อ X Burner ของสึนะและถอยทัพไป ทางด้านเบียกคุรันที่นอนซมไข้เพราะใช้วิชามองอนาคตตามหายูนิก็กำลังให้ ไอริสจัดการเรื่องบุปผาอาลัยคนที่ 6 ที่อยู่ในคุกวินดิเช่ซึ่งชื่อ โกสต์ ที่คุกวินดิเช่ ฟรานได้ปลอมตัวเป็นไอริสแล้วแล้วขออนุญาต โรคุโด มุคุโร่ และได้เจอกับเคน จิคุสะและ M.M พวกสึนะได้เดินทางกลับไปที่ป่าที่มีโลงศพของสึนะ และได้พักแรมที่นั่น แกมม่า โนซารุและทาซารุได้มีปากเสียงกับโกคุเดระและอิริเอะ โชอิจิ แต่ยูนิมาห้ามไว้แล้วเล่าเรื่องความสามารถของตนที่ได้รับสืบทอดมาจากลูเช่ หรือคุณยายของยูนิ รัล มิลจิ ได้บอกความจริงว่าอัลโกบาเลโน่แห่งนภาจะมีอายุสั้น (เป็นสาเหตให้ลูเช่ อาเรีย ได้ป่วยและเสียชีวิต) และยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถพิเศษจะยิ่งเสื่อมไป แต่ยูนิได้บอกกับทุกคนว่าเธอรู้มานานแล้วว่าพวกเธอจะต้องเผชิญหน้ากับเบียคุ รันในวันรุ่งขึ้น และแรมโบ้ในวันรุ่งขึ้นได้เจอกับเดซี่(อรุณ) และเดซี่ก็ได้ทำร้ายแรมโบ้อย่างรุนแรงโกคุเดระผ่านมาเจอจึงช่วยแรมโบ้แต่โก คุเดระก็โดนเดซี่ฆ่าตายแรมโบ้จึงเกิดคิดความหลังที่โดนโกคุเดระกลั่นแกล้งมา ตลอดด้วยความโกรธแรมโบ้ร่างเด็กได้จุดไฟอัสนีที่แหวนขึ้นโดยไม่รู้ตัวและ เปิดกล่อง BOX Vongola ได้มีกระทิงอัสนีออกมาและได้ชนเดซี่อย่างรุนแรงแต่เดซี่ก็ยังไม่ตายและสาย ฟ้าจึงผ่ามาที่ตัวแรมโบ้แรมโบ้กระโดดเข้าพุ่งชนเดซี่อย่างรุนแรงทำให้เดซี่ ตายในที่สุด

ภาค ท้าย ทูรินิเซนต์ The Future


ภาค ท้าย ทูรินิเซนต์ The Future

หลังจากเตรียมความพร้อมในการรบกับมิฟิโอเล่แล้ว ซึนะได้รับแผนการในการบุกจากสปาน่า ที่รับคำสั่งจาก อิริเอะให้หักหลัง มิฟิโอเร่ โดยมอบทั้งแผนที่และยุทธการและการรบทั้งหมดให้กับสปาน่า แต่ตนเองทำเป็นคุมสถานการณ์ได้ โดยเมื่อเข้ามาในฐานทัพได้แล้วกลับกลายเป็นอาวุธกล่องขนาดใหญ่ที่เรียกว่า บล็อกฐานทัพ โดยมีผู้ใช้งานคือ อิริเอะ ไอริสและ Ginger Bread บุกเข้าไปในห้องทำงานและแล็บต่างๆของสปาน่าเพื่อตามหาซึนะและสปาน่า สุดท้ายก็หาจนพบและได้ต่อสู้กับสึนะ โดยครั้งนี้ซึนะได้ใช้ Contacts ซึ่งสปาน่าเป็นผู้สร้างให้ เพื่อพัฒนา X-Burner ให้ถึงขีดสุด Contactsทำหน้าที่ควบคุมเปลวไฟสองข้างให้เท่ากัน ซึนะได้ใช้ X-Burner อย่างสมบูรณ์แบบ และซึนะก็ชนะ เมื่อซึนะบุกถึงระบบกลางได้แล้ว อิริเอะได้บอกความจริงที่ว่า ตนเองเป็นฝ่าย วองโกเล่

ภาค กลาง ทูรินิเซนต์ The Future


ภาค กลาง ทูรินิเซนต์ The Future

หลังจากได้รับสารลับให้รวบรวม บรรดานักรบทั้ง 6 กลับมาได้แล้วนั้นต้องผจญกับบรรดานักรบบุปผาทมิฬ ตัวปลอมทั้ง 6 คนโดยเป้าหมายนั้นคือ ทำการสอบสวนโชอิจิผู้พัฒนาระบบการเคลื่อนย้ายผ่านบาซูก้าทศวรรษ โดยซึนะและบรรดา ผู้พิทักษ์ได้รับข้อมูลในการเปิดผนึกอาวุธต้นตำหรับของวองโกแรล เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วจำเป็นต้องควบคุมความสามารถและการ ใช้งานให้ได้ก่อนโดย ในศึกแรกซึนะ บอสวองโกแรลรุ่นที่ 10 ได้รับการพัฒนาฝีมือและความสามารถด้วยการรับตราบาปแห่งคุณธรรม โดยสามารถพัฒนา ถุงมือ X Burner ให้กลายเป็น V.ver ได้และได้รับ MicroVR และ MRcontace เลนส์ที่พัฒนาให้สามารถเชื่อมความสามารถระหว่าง X Burner V.ver และ Headphone จาก สปาน่าให้ใช้งานได้เต็ม 100 เปอร์เซ็น

ปฐม บท ทูรินิเซนต์ The Future


ปฐม บท ทูรินิเซนต์ The Future

รีบอร์นถูกนำตัวสู่อนาคตด้วยบาซูก้าทศวรรษ และยังไม่กลับสู่สภาพเดิม สึนะจึงให้แรมโบ้ยิงบาซูก้าใส่ตัวเองเพื่อเรียกแรมโบ้หนุ่มในอีก 10 ปีข้างหน้าเพื่อสอบถาม แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน สึนะโดนบาซูก้าและถูกส่งไปในอีก 10 ข้างหน้าได้ทราบข้อมูลที่น่าตกใจยิ่ง เพราะตนเองถูกลอบสังหารเสียชีวิตไปแล้วพร้อมทั้งยังทำลายแหวนวองโกเล่ จากปากของ รัล มิลจิ หนึ่งใน อัลบาโกโล่แน่ เด็กต้องสาป โดยฐานทัพของวองโกแรลนั้นถูกย้ายศูนย์บัญชาการลงใต้ดินหลังจาก มิลฟีโอเล่แฟมิลี่ถล่ม โดยผู้บรรชาการคือเบียกคุรัน วองโกเล่รุ่นที่9 หายสาบสูญโดยมีคำสั่งสุดท้ายให้ รวบรวมผู้พิทักษ์ทั้ง 6 คน กระจัดกระจายมารวมตัวกันเพื่อหยุดแผนการสร้างโลกใหม่ด้วยการนำแหวนวองโกแร ลในอดีตและนำอัลบาโกโล่เน่กลับมาด้วย เพื่อรวมกับแหวนทั้งหมดของมิลฟิโอเร่ เป็น ทูรินิเซนต์ 7³

ภาคปะทะวาเรีย


ภาค ปะทะวาเรีย

หลังจากศึกมุคุโร่ พวกสึนะก็ต้องเผชิญกับกลุ่มวาเรีย (Varia) โดยที่สควอโล่นั้นไล่กวดบาจิลตลอดทางในญี่ปุ่น เพื่อชิงแหวนอีกครึ่งหนึ่งของวองโกเล่ และเจอกับพวกสึนะเข้า สควอโล่นั้นต้องการแหวนผู้พิทักษ์วอลโกเล่ เป็นครึ่งหนึ่งของแหวนแต่ละอัน ซึ่งสควอโล่นั้นได้แหวนของปลอมไป ส่วนของจริงนั้นอยู่กับดีโน่ พ่อของสึนะได้กระจายแหวนไปให้ทั้ง 7 คน โดยมอบแหวนแต่ละวงไปอยู่กับ

* แหวนแห่งนภา - ซาวาดะ สึนะโยชิ
* แหวนแห่งอรุณ - ซาซางาวะ เรียวเฮ
* แหวนแห่งอัสนี- แรมโบ้
* แหวนแห่งวายุ - โกคุเดระ ฮายาโตะ
* แหวนแห่งพิรุณ - ยามาโมโตะ ทาเคชิ
* แหวนแห่งเมฆา - ฮิบาริ เคียวยะ
* แหวนแห่งสายหมอก - โดคุโร โครม เป็นตัวแทนของ โรคุโด มุคุโร่

ทุกคนนั้นต้องฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะต่อกรกับกลุ่มวาเรียที่กำลังจะ รู้ความ จริงเรื่องแหวน และจะมาญี่ปุ่นในไม่ช้า รีบอร์นได้จัดครูฝึกของทุกคนไว้ ยกเว้นโครมและแรมโบ้ที่เพิ่งพบว่ามีแหวนอยู่ภายหลัง โดยที่รีบอร์นจัดครูสอนพิเศษไว้ ดังนี้

* ซาวาดะ สึนะโยชิ - รีบอร์น
* โกคุเดระ ฮายาโตะ - ดร. ชามาล
* ยามาโมโตะ ทาเคชิ - พ่อยามาโมโตะ
* ฮิบาริ เคียวยะ - ดีโน่
* ซาซางาวะ เรียวเฮ - โคโรเนโร่

สึนะนั้นเพิ่งรู้ว่าแหวนแห่งอัสนีนั้นอยู่กับแรมโบ้ ระหว่างที่แรมโบ้นั้นถูกหมายหัวโดยเลวี่หนึ่งในวาเรีย พวกวาเรียนั้นมาถึงญี่ปุ่นก่อนกำหนด และทุกคนนั้นถูกจัดการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างผู้พิทักษ์ที่มีแหวนเหมือนกัน โดยแต่ละคืนนั้นจะมีหนึ่งศึก โดยมีลำดับดังนี้

* ศึกแห่งอรุณ ระหว่าง ซาซางาวะ เรียวเฮ ปะทะ ลุสซูเรีย (ชนะ)

เวทีนั้นคือสนามประตูโรงเรียนที่ถูกจัดเป็นเวทีมวย ลุซซูเรียชอบใจเรียวเฮ แต่เขาต้องการที่จะให้สิ่งที่ชอบเป็นศพแล้วเก็บเอาไว้ในคอลเล็คชั่นส่วนตัว ของเขา[เอาไปสตัฟ!!!]

* ศึกแห่งอัสนี แรมโบ้ ปะทะ เลวี่ อาแทน (แพ้)

เวทีนั้นอยู่บนดาดฟ้าโรงเรียน โดยที่มีพายุฟ้าผ่า แถมสายล่อฟ้าตั้งสูง แรมโบ้นั้นได้เรียกตัวเองจาก 20 ปีข้างหน้ามาสู้ แต่หมดเวลาของกระสุน บาซูก้าทศวรรษเสียก่อน จึงทำให้เลวี่ได้โอกาสโจมตีแรมโบ้อย่างรุนแรง แต่สึนะมาช่วยไว้ ทว่า ต้องถูกปรับแพ้เพราะสึนะเข้ามาช่วย

* ศึกแห่งวายุ โกคุเดระ ฮายาโตะ ปะทะ เบลเฟกอล (แพ้)

เวทีอยู่ในอาคารโรงเรียนตึก A ที่มีลมพายุที่เกิดจากเครื่อง พร้อมระเบิดเวลา ระหว่างที่สู้เบลเฟกอลได้เห็นเลือดตัวเองจะกลายเป็นเหมือนกับคนบ้าและเก่ง ขึ้นด้วย โกคุเดระจึงได้ละทิ้งแหวน เพื่อหนีเอาชีวิตรอดหลังจากที่ระเบิดเวลาใกล้มาถึงตัวของเขาแล้ว

* ศึกแห่งพิรุณ ยามาโมโตะ ทาเคชิ ปะทะ สเปลฮี สควอโล่ (ชนะ)

ภายในอาคาร ตึก B โดยที่ตึกโดนทุบจนแหลก แล้วมีน้ำไหลลงมาจากแท้งค์น้ำที่อยู่ข้างบนโดยที่ระหว่างที่สู้ยามาโมโตะได้ รู้ว่าสควอโล่เคยถล่มสำนักชิงุเระโซเอนมาแล้ว แต่สควอโล่นั้นไม่สามารถมองเพลงดาบชิงุเระโซเอนท่าที่ 8 (พิรุณกระหน่ำแทง) โดยคิดว่าเป็น ฝนใบไม้ร่วง และก็ถูกปราบด้วยเพลงดาบชิงุเระโซเอนท่าที่ 9 (ฝนสะท้อนเงา) ซึ่งเป็นท่าที่คิดค้นด้วยตัวเอง และโดนฉลามกิน (แต่ยังไม่ตาย)

* ศึกแห่งเมฆา ฮิบาริ เคียวยะ ปะทะ โกล่า มอสก้า (ชนะ)

สนามโรงเรียนที่เต็มไปด้วยกับระเบิด และถูกยิงโดยปืนกลจากด้านนอก ฮิบาริชนะด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แล้วจึงท้าสู้กับ XANXUS ในระหว่างที่สู้กับ XANXUS มอสก้าก็เกิดบ้าคลั่ง สึนะต้องหยุดมัน แต่ว่ารุ่นที่ 9 ตัวจริงนั้นถูกจับไว้อยู่ข้างใน ในสภาพที่เกือบตาย

* ศึกแห่งสายหมอก โครม โรคุโด ปะทะ มาม่อน [ไวเปอร์] (ชนะ)

ภายในโรงยิม ที่ไม่มีอะไรพิเศษ มามอนได้ใช้พลังปลดผนึกจุกนมขึ้นมากลายเป็น อัลโกบาเลโน่ ไวเปอร์ แล้วใช้พลังของตนเองโจมตีโครม จนหอกสามง่ามของโครมหัก จนโครมสลบไป และท้องก็ยุบลงไปเรื่อยๆ ขณะที่โครมกำลังแย่ มุคุโร่นั้นจึงมาสลับเปลี่ยนกับโครม แล้วใช้พลังของตนเองที่ได้มาจากในนรกจัดการกับไวเปอร์

* ศึกแห่งนภา ซาวาดะ สึนะโยชิ ปะทะ Xanxas (ชนะ)

ทั่วโรงเรียน โดยต้องช่วยผู้พิทักษ์ของตัวเองทั้งหมดก่อนครึ่งชั่วโมง โดย ซันซัส ใช้ความสามารถของรุ่นที่ 2 และอาวุธของรุ่นที่ 7 ส่วนสึนะได้สำเร็จท่าใหม่ เดือดทะลุจุดศูนย์ ของรุ่นที่ 1 และได้คิดค้น เดือดทะลุจุดศูนย์ฉบับดัดแปลง ที่ดูดพลังไฟดับเครื่องชนของคู่ต่อสู้ได้ หลังจากนั้นสึนะก็สามารถใช้ เดือดทะลุจุดศูนย์แบบต้นตำรับ ที่ทำให้แช่แข็งศัตรูได้

หลังจากที่สึนะชนะ ซันซัส แล้วก็ได้รู้ว่าแผลของ ซันซัส เกิดจากที่วองโกเล่รุ่นที่ 9 ใช้เดือดทะลุจุดศูนย์ แช่แข็ง และได้รู้อีกว่า ซันซัส ไม่ใช่ลูกแท้ๆของรุ่นที่ 9 แค่เป็นเด็กฝากมาเลี้ยงเท่านั้น จากนั้นเบลเฟกอลและมาม่อนได้เรียกกลุ่มวาเรียที่เหลือมาช่วย แต่ว่าถูกลันเซียกำจัดหมด และผู้พิทักษ์ของสึนะทุกคนก็ได้แหวนไป

การท้าทายจากมุคุโร่


การ ท้าทายจากมุคุโร่

หลังจากที่เริ่มการฝึกไปได้ไม่นาน "มุคุโร่" ได้นำนักฆ่าหลายคนเข้าทำร้ายเด็กนามิโมริ 1ในนั้นคือ ซาซางาวะ เรียวเฮ สึนะจึงเข้าไปหา หลังจากที่กำลังออกจากห้องของเรียวเฮ ก็ได้พบกับคุวาซาเบะที่นอนซมอยู่บนเตียงฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน หางของเลอ้อนก็หลุดออก และเนื่องจากการที่มุคุโร่ส่งนักฆ่าหลายคนมาทำร้ายเด็กโรงเรียนนามิโมริ ฮิบาริจึงไปจัดการกับมุคุโร่เพราะความโกรธ แต่กลับแพ้ไม่เป็นท่าเพราะโรค"ซากุระโซซัดโซเซ"ที่เมื่ออยู่มองดอกซากุระ แล้ว จะยืนไม่ขึ้น เนื่องจากโดน "ไทเด้นซ์ มอสคิวโต้"ของ ดร. ชามาล ในขณะเดียวกัน ขณะที่โกคุเทระกำลังเที่ยวอยู่ก็มาเจอ1ในนักฆ่าของมุคุโร่"จิคุสะ"โดย บังเอิญ ทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น จิคุสะนั้นได้เพลี้ยงพล้ำต่อโกคุเทระ แต่ขณะเดียวกันก็โดนพิษจากอาวุธของเขา"โยโย่"เช่นเดียวกัน ทำให้ต้องไปที่ห้องพยาบาลของโรงเรียนนามิโมริ หลังจากที่สึนะออกจากห้องพยาบาลไปแล้ว สึนะก็ได้พบว่าเลอ้อนกลายเป็นดักแด้ไปแล้ว จากนั้นรีบอร์นก็บอกให้ไปถล่มพวกมุคุโร่ และบอกว่ากระสุนดับเครื่องชนเหลืออยู่แค่นัดเดียวโดยให้ยามาโมโตะ,โกคุเดระ และเบียงกี้ไปด้วย แต่ถึงอย่างไร พวกสึนะก็ไปที่โกคุโยแลนด์ เพื่อปะทะกับมุคุโร่ พวกสึนะได้ปะทะกับนักฆ่าทั้งหมด โดยยามาโมโตะเจอกับเคน เบียงกี้เจอกับ M.M จนได้พบกับมุคุโร่

ในการต่อสู้ครั้งนั้น ยามาโมโตะโดนลูกเหล็ก จนสลบไป โกคุเดระบาดเจ็บ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนนัดสุดท้ายใส่สึนะทำให้เอาชนะมาได้ชนะและ รู้ว่าเป็นตัวปลอม ทันทีที่มุคุโร่ตัวปลอมกำลังจะบอกเป้าหมายของมุคุโร่ ก็โดนเข็มพิษจากจิคุสะลอบยิงใส่ จากนั้นมุคุโร่ตัวปลอมจึงบอกชื่อว่า ลันเชีย เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีกระสุนดับเครื่องชนแล้ว มุคุโร่ตัวจริง จึงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ สึนะจึงโกรธและบุกไปหามุคุโร่ในโกคุโยคอมเพล็กซ์

พวกสึนะได้พบกับจิคุสะแล้วโกคุเทระก็อาสาสู้ด้วยแต่แล้ว เคนก็มาช่วยจิคุสะ เมื่อโกคุเทระอยู่ในสภาวะอันตราย ฮิบาริก็เข้าไปช่วยแล้วจึงไปช่วยสึนะ จึงรวมพลังกันเพื่อสู้กับมุคุโร่แต่ฮิบาริสลบไปก่อน ในระหว่างที่สู้กันอยู่ เมื่อมุคุโร่เสียเปรียบจึงยิงปืนฆ่าตัวตาย ทันใดนั้นเอง เบียงกี้ก็ได้ฟื้นขึ้นมา แล้วเข้าทำร้ายโกคุเดระ รีบอร์นจึงรู้ว่ามุคุโร่ใช้กระสุนพิเศษที่มีชื่อว่า"กระสุนสิงสู่"ซึ่งเป็น กระสุนต้องห้าม (กระสุนพิเศษที่ทางวงการมาเฟียได้สั่งห้ามใช้เป็นอันขาด) ทำให้สามารถสิงได้ต่อเมื่อโดนหอกสามง่ามของมุคุโร่ ทำให้สึนะต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทว่า เลออนได้ฟักออกจากดักแด้ขึ้นมาพร้อมๆกับอาวุธให้สึนะคือX-GLOVE (ดูจากภายนอกเหมือนถุงมือไหมพรมทั่วๆไป) พร้อมกระสุนเสียงบ่น จึงปะทะกับมุคุโร่อีกครั้งด้วยX-GLOVEและกระสุนเสียงบ่นที่ทำให้เข้าสู่โหมด ใหม่"โหมดไฮเปอร์"จนเอาชนะมุคุโร่ได้ ส่วนมุคุโร่ถูกวีดีเซ่ คือ กลุ่มที่คอยจับตัวคนที่ทำความผิดที่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ในวงการมาเฟียจับตัว กลับไปพร้อมกับพรรคพวก แต่ในตอนท้ายมุคุโร่ได้สิงร่างเด็กผู้ชายที่มีชื่อเล่นว่า"ม่าคุง"

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

ภาคฝึกฝน



















ภาค ฝึกฝน

ซาวาดะ สึนะโยชิ เป็นเด็กม.ต้นที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องทุกด้าน จนถูกเรียกชื่อว่า "สึนะจอมห่วย" วันหนึ่ง สึนะก็ได้พบกับ เด็กชายท่าทางประหลาดคนหนึ่ง ซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นครูสอนพิเศษที่แม่ของสึนะจ้างมาชื่อว่า "รีบอร์น"มาจากอิตาลี สึนะไม่ยอมรับว่ารีบอร์นซึ่งดูเป็นทารกอยู่ จะเป็นครูสอนพิเศษได้ จนกระทั่งถูกยิงด้วย "กระสุนดับเครื่องชน" ที่กลางหน้า ทำให้สึนะรู้สึกว่าตัวเองจะต้องตาย และรู้สึกเสียใจว่าถ้าหากพยายามสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะ อย่างเอาเป็นเอาตาย เธออาจจะยอมรับรักของเขาก็ได้ ทันทีที่คิดเช่นนั้น ไฟดับเครื่องชนก็ถูกจุดขึ้นที่หน้าผากของสึนะ

เสื้อผ้าของเขาขาดออก และเขาก็วิ่งไปสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะที่เดินอยู่กับรุ่นพี่โมจิดะ อย่างเอาเป็นเอาตายด้วยพลังที่เหลือเชื่อ ผลจากการสารภาพรักครั้งนี้คือเคียวโกะตกใจจนพูดไม่ออก เพราะวิ่งมาสารภาพรักโดยที่ไม่ใส่เสื้อผ้า จากนั้นสึนะจึงยอมรับว่ากระสุนดับเครื่องชนของรีบอร์นมีพลังวิเศษ และรีบอร์นก็ประกาศว่าหน้าที่ที่แท้จริงของเขาคือ การฝึกให้สึนะเป็นหัวหน้าของ "วองโกเล่ แฟมิลี่" ที่เป็นแก๊งค์มาเฟียขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงมากในอิตาลี

รีบอร์นบอกว่าวองโกเล่ แฟมิลี่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน หัวหน้าคนปัจจุบันคือรุ่นที่เก้า และสึนะจะต้องเป็นรุ่นที่สิบต่อไป โดยหัวหน้ารุ่นแรกคือทวดของทวดของสึนะ เป็นผู้ก่อตั้งวองโกเล่ขึ้น และล้างมือมาอยู่ญี่ปุ่น

หลังจากสึนะแสดงวีรกรรมสารภาพรักในสภาพเปลือย เปล่า รุ่นพี่โมจิดะ ที่แอบชอบเคียวโกะรู้สึกไม่พอใจสึนะ จึงคิดจะให้สึนะขายหน้า โดยให้สึนะประลองเคนโด้ด้วยและวางแผนแกล้งไม่ให้ทำอิปป้งได้ ตอนแรกสึนะไม่กล้าสู้ แต่ต่อมาก็นึกขึ้นได้ว่าถึงจะแพ้แต่ก็จะกลับไปสู้ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนใส่ สึนะวิ่งเข้าใส่ในชุดกางเกงในก็ทำอิปป้งด้วยการกระชากผมของรุ่นพี่โมจิดะออก จากหัว (ป้งแปลอีกอย่างได้ว่าเส้นผม) ทำให้เพื่อน ๆ ประทับใจในแรงฮึดกับมุกของสึนะ และเดียวโกะก็คุยกับสึนะเป็นครั้งแรก

ผลจากการชนะรุ่นพี่ ทำให้เพื่อน ๆ ชวนสึนะเล่นวอลเล่ย์บอล ช่วงแรกสึนะคิดว่าจะให้รีบอร์นยิงกระสุนช่วย แต่รีบอร์นบอกว่าถ้ายิงโดยไม่มีอะไรคาใจก็ตายจริงแน่ สึนะจึงหนีไป แต่ก็กลับมาด้วยความรับผิดชอบ ในที่สุดรีบอร์นก็ช่วยด้วยการยิงกระสุนดับเครื่องชนที่อื่น จนสึนะชนะได้ ความไม่ได้เรื่องของสึนะอยู่ในสายตาของ "โกคุเดระ ฮายาโตะ" ผู้มาจากอิตาลี ทำให้โกคุเดระไม่ยอมรับสึนะเป็นหัวหน้าของวองโกเล่ จึงท้าประลองโดยโกคุเดระใช้ระเบิดเป็นอาวุธ แต่หลังจากโกคุเดระ ทำระเบิดหล่น และสึนะในโหมดดับเครื่องชน ได้ช่วยดับระเบิดทั้งหมดได้ทัน และเข้าเป็นแฟมิลี่คนแรกของสึนะ

จากผลงานของสึนะที่เริ่มก่อวีรกรรมมากขึ้น (โกคุเดระมีส่วนที่ทำให้วีรกรรมยิ่งโดดเด่น เช่น การระเบิดสนามของโรงเรียน) ทำให้ยามาโมโตะ ทาเคชิ นักเบสบอลของโรงเรียนสนใจเขา ยามาโมโตะมีปัญหากับการเล่นเบสบอลจึงมาปรึกษาสึนะ สึนะบอกให้พยายามซ้อม ยามาโมโตะจึงซ้อมจะแขนหักและเสียใจมากคิดฆ่าตัวตายโดยโดดตึกเรียน สึนะเข้าไปห้ามจนยามาโมโตะเริ่มคิดตก แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทำให้ยามาโมโตะร่วงลงไป สึนะโดดตามไปช่วยโดยรีบอร์นสนับสนุนด้วยกระสุนดับเครื่องชน ทำให้ทั้งคู่รอดชีวิตทั้งที่ตกตึกมาด้วยกัน ยามาโมโตะกลายเป็นเพื่อนคนแรกของสึนะ

สึนะได้รู้จักกับแรมโบ้ นักฆ่าที่เป็นเด็กอายุห้าขวบ ที่มาลอบสังหารรีบอร์นแต่ไม่เคยทำสำเร็จ จนกลายเป็นเด็กในบ้านสึนะ และอี้ผิง นักฆ่าที่มาลอบฆ่าสึนะด้วยความเข้าใจผิดเนื่องจากสายตาสั้น ภายหลังได้มาอาศัยในบ้านสึนะ ทำให้สมาชิกในบ้านมีเพิ่มขึ้น และก่อเรื่องปวดหัวให้สึนะมากขึ้น รวมถึง "เบียงกี้" พี่สาวของโกคุเทระ นักฆ่าที่ทำให้อาหารเป็นพิษที่คิดจะมาฆ่าสึนะตลอดเวลาเพื่อพารีบอร์นกลับไป แต่ความที่เบียงกี้ชอบรีบอร์นมากจึงรับคำ ไม่ฆ่า สึนะอีก และดีโน่ หัวหน้าคาบัคโรเน่แฟมิลี่ เป็นสิทธิ์รุ่นพี่ของสึนะโดยเคยเป็นลูกศิษย์ของรีบอร์นมาก่อน จนมาถึงตอนที่ ฟูตะ นักจัดอันดับแรงกิ้งที่แม่นยำที่สุด โดยมาเฟีย ไล่ล่าขอรายชื่อ เพื่อตามล้างบางแฟมิลี่อื่น ต้องให้สึนะมาช่วย จนต้องมาอยู่ด้วยกันอีก